สมุนไพรและเครื่องเทศต้านมะเร็ง

21 ม.ค. สมุนไพรและเครื่องเทศต้านมะเร็ง

1.ขิง(Ginger) ใช้เหง้า รสหวานเผ็ดร้อน มีสารต้านอนุมูลอิสระ แก้คลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด เหง้าสดตำคั้นน้ำผสมน้ำมะนาวและเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญธาตุ สารในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้

2.ขมิ้น (Turmeric) ใช้เหง้า รสฝาดหวานเอียน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ แก้โรคผิวหนังผื่นคัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ท้องร่วง สมานแผล แก้ธาตุพิการ ขับสิ่งสกปรกในร่างกาย คุมธาตุ แก้เสมหะ แก้ไข้เพื่อดี คลั่งเพ้อ แก้ไข้เรื้อรัง ผอมเหลือง

5.กระเทียม (Garlic) ใช้หัว รสร้อนฉุน ใช้ฆ่าเชื้อรา ฆ่าเชื้อยีสต์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดความดันโลหิตสูง แก้ปวดหัว แก้ปวดหัวข้างเดียว รักษาไข้หวัด ขับพยาธิ แก้เคล็ดขัดยอก

6.ตะไคร้ (Lemongrass) ใช้ทั้งต้น รสปร่าร้อนขม แก้ริสีดวงในปาก ขับโลหิต ทำให้มดลูกบีบตัว ทำให้แท้ง ขับลมในลำไส้ แก้แน่น

7.หอมใหญ่ (Onion) ใช้หัว รสเผ็ดฉุนร้อน น้ำมันหอมระเหยในหัวเป็นยาขับเหงื่อ แก้ปวดท้องเนื่องจากเย็น แก้ปัสสาวะอุจจาระขัด แก้บิด แก้ฝีหนอง แก้ไข้เพื่อเสมหะที่ครืดคราดอยู่ในอก แก้ไข้ร้อนไน ทำให้ปวดกระบอกตา แสบร้อนตา น้ำตาไหล ขับเสมหะ แก้โรคในปากในคอ บำรุงผมให้งอกงาม ทำเนื้อหนังให้สดชื่น บำรุงปวด บำรุงธาตุ หัวหอมสดตำผสมพิมเสนและเปราะหอมพอกกระหม่อมเด็กราว 1 ชั่งโมงแก้หวัดคัดจมูก ขับพยาธิตัวกลมในเด็ก คนเป็นลมชัก ไม่มีแอมมอเนียหอม ใช้หัวหอมบี้ทาศีรษะและอกช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น

8.พริกไทยดำ (Pepper black) ใช้เมล็ด รสเผ็ดร้อน แก้ลมอัมพฤกษ์ แก้ลมลั่นในท้อง บำรุงธาตุ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้เสมหะเฟื่อง แก้มุตกิด

9.พริก (Pepper, red also known as chili or cayenne pepper)ใช้ผล รสเผ็ดร้อน แก้ท้องขึ้นท้องอืดท้องเฟ้อ แก้แน่น ขับผายลม เจริญอาหาร แก้ลมจุกเสียด ดองสุราหรือบดผสมวาสลินใช้ทาถูนวด หรือทาแก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดตามข้อ ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

10.ชาเขียว (Green Tea) เป็นชาที่เก็บเกี่ยวจากพืชในชนิด Camellia sinensis เช่นเดียวกับ ชาขาว ชาดำ และชาอู่หลง ชาที่ไม่ผ่านการหมัก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีคุณสมบัติในการต้านทานโรคได้นานาชนิดจึงเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่
ทำไมต้องดื่มชา…
1) ชาช่วยในการขับสารพิษและต้านอนุมูลอิสระ จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง และโรคความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
2) ชามีส่วนช่วยในขบวนการกำจัดและลดไขมัน คอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ซึ่งทำให้ลดภาวะ ความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจากการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด
3) ชาช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้น การทำงานระดับเซลล์
4) ชาช่วยในการปรับให้ร่างกายของเราสามารถกลับคืนสู่สมดุลเดิมได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลทำให้เราพร้อมที่ทำงานหนักหรือเข้าสู่โปรแกรมเฉพาะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย
5) ช่วยทำให้ชุ่มคอ ดับกระหาย ป้องกันฟันผุ ดับกลิ่นปาก ลดความอ้วน ลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร ลดความเครียด ทำให้ความจำไม่เสื่อม แก้โรคพิษสุราเรื้อรัง และช่วยชะลอความแก่ ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่น

17,740 total views, 38 views today